โรคริดสีดวงทวาร เป็นโรคที่หลายคนเป็นแล้ว มักจะไม่ค่อยมาพบแพทย์ตั้งแต่เริ่มเป็นในระยะแรกๆ แต่ปล่อยไว้จนลุกลามและส่งผลกระทบกับชีวิตประจำวัน จึงค่อยมาพบแพทย์ เพียงเพราะกลัวว่าต้องผ่าตัด
นพ.อนนต์ ใจอ่อนน้อม ศัลยแพทย์ทั่วไป ประจำโรงพยาบาลเวชธานี ได้กล่าวว่าโรคริดสีดวงทวาร เกิดจากเส้นเลือดฝอยโป่งพอง จนเกิดก้อนเนื้อบวมบริเวณปากทวารหนัก สามารถแบ่งความรุนแรงของอาการออกเป็น 4 ระยะ ซึ่งโรคริดสีดวงทวาร นี้มีสาเหตุจากการกินอาหารที่มีกากใยน้อย ดื่มน้ำน้อย ไม่ออกกำลังกาย รวมถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น เล่นมือถือหรืออ่านหนังสือขณะขับถ่าย เบ่งอุจจาระรุนแรงบ่อย หากยังไม่ปรับพฤติกรรม อาจทำให้เส้นเลือดฝอยโป่งพองมากขึ้นได้ โดยส่วนใหญ่แล้ว โรคริดสีดวงทวารมักจะเกิดกับคนในช่วงอายุ 40 – 60 ปีขึ้นไป เป็นได้ทั้งชายและหญิง
ส่วนการรักษาริดสีดวงทวาร นพ.อนนต์ อธิบายว่าไม่จำเป็นต้องผ่าตัดริดสีดวงเสมอไป เนื่องจากปัจจุบันมีเทคนิคการรักษาด้วยการเลเซอร์ริดสีดวง ซึ่งเหมาะกับผู้ป่วยที่เป็นโรคริดสีดวงทวารระยะที่ 2 – 3 เนื่องจากเป็นระยะที่จะให้ผลการรักษาได้ดีที่สุด ส่วนผู้ป่วยริดสีดวงทวารระยะที่ 1 แพทย์อาจให้ยาระบายอ่อนๆ ควบคู่กับการแนะนำให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น กินอาหารที่มีกากใยให้มากขึ้น ดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง ส่วนผู้ป่วยระยะที่ 4 อาจใช้เทคนิคควบคู่กันระหว่างเลเซอร์ริดสีดวงและผ่าตัดรักษาริดสีดวง เนื่องจากเป็นระยะที่รุนแรง
โดยการทำงานของเลเซอร์ริดสีดวง แพทย์จะใช้หัวเลเซอร์จี้ทำลายเส้นเลือดที่มาเลี้ยงติ่งเนื้อริดสีดวง ทำให้ริดสีดวงที่มีขนาดใหญ่ค่อยๆเล็กลงจนฝ่อไปเอง ซึ่งข้อดีของการทำเลเซอร์ริดสีดวงคือผู้ป่วยจะไม่มีแผลผ่าตัด เจ็บน้อยกว่าและฟื้นตัวไวกว่า ส่วนการดูแลตัวเองหลังการทำเลเซอร์ริดสีดวง เพียงแค่แช่น้ำอุ่นประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อลดอาการปวด ป้องกันการติดเชื้อ และทำให้ริดสีดวงยุบเร็วขึ้น
ทั้งนี้ หากพบว่าตนเองถ่ายอุจจาระแล้วมีก้อนหรือมีเลือดสดออกมา ควรมาปรึกษาแพทย์เพื่อให้แพทย์ได้ตรวจรักษาและให้คำแนะนำที่ถูกต้อง
cr.https://www.vejthani.com
หน้าที่เข้าชม | 747,055 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 642,842 ครั้ง |
เปิดร้าน | 29 มี.ค. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 6 ก.ย. 2568 |